สรุปการดำเนินโครงการ "จับมือทำการวิเคราะห์ค่างานและการเขียนคู่มือปฏิบัติงาน"
4K (Ultra High Definition) คืออะไร
รองผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ฝ่ายศูนย์คอมพิวเตอร์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
มารู้จักกับมาตราฐานใหม่ของความละเอียดหน้าจอกัน
4K หรือ Ultra High Definition คือ
มาตรฐานใหม่ของความละเอียดของ “จอภาพ” และ “คอนเทนต์” โดย K ย่อมาจาก Kilo ซึ่งเท่ากับ 1000 ดังนั้น 4K ก็หมายถึง 4000 นั่นเอง สำหรับความละเอียดหน้าจอสำหรับทีวี 4K แบบ Widescreen หมายถึงมีความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ผลรวมออกมาก็ได้ประมาณ 8.29 ล้านพิกเซล ทั้งนี้ความละเอียดในแนวนอนเท่ากับ 3840 เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกจึงมีการปัดเศษขึ้นให้เป็น 4000 จึงเป็นที่มาของคำาว่า 4K ในทางกลับกันทีวี Full HD ซึ่งเป็นมาตรฐานในตอนนี้มีความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งผลรวมออกมาได้ประมาณ 2.07 ล้าน พิกเซล จะเห็นได้ว่าความละเอียดหน้าจอของทีวี 4K มากกว่า ทีวีแบบ Full HD ถึง 4 เท่า โดยเจ้าความละเอียด 4K นั้นกำลังจะเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งการถ่ายทำด้วย กล้องความละเอียด 4K และจอฉายแบบ 4K และ ตลอดจนสินค้าทีวีและโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์
ประโยชน์ของภาพ 4K ในเชิงคุณภาพของภาพ
ยิ่งเม็ดพิกเซลเยอะ ก็จะส่งผลให้ขนาดเม็ดพิกเซลมีความเล็กและเรียงตัวกันถี่มากยิ่งขึ้น “รอยหยักตามขอบภาพแบบขั้นบันได” (Jaggies) ก็จะน้อยลง รวมถึงพื้นที่ “รอยต่อระหว่างพิกเซล” (Screen Door Effect) ก็จะแคบลงทำให้ภาพแลดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ใช้จะได้รับชมภาพที่มีรายละเอียดมากขึ้น นั่งใกล้ทีวีได้มากขึ้นอีกด้วย มาตรฐานวงการทีวีไฮเดฟฟินิทชั่นแบบไวด์สกรีน HD = 1366 x 768 Full HD = 1920 x 1080 Ultra HD (4K) = 3840 x 2160 หมายเหตุสำหรับเทคโนโลยี 4K ทาง Consumer Electronics Association หรือ CEA ได้สรุปออกมาแล้วว่าให้ทุกค่ายทีวีใช้คำว่า Ultra High Definition (Ultra HD หรือ UHD) ในการเรียกความละเอียดแบบนี้ ซึ่งแบรนด์ทีวี, จอฉาย, หรือเครื่องเล่น จะต้องทำการเรียกและประชาสัมพันธ์สินค้าด้วยคำว่า Ultra High Definition แทนคำว่า 4K (รวมถึงเวลารีวิวสินค้าในเว็บ LCDTVTHAILAND ด้วย) และในอนาคตอันไกล (โพ้น) มาตรฐานความละเอียดของจอภาพและคอนเทนต์ก็จะสูงขึ้นอีก โดยจะกลายเป็นความละเอียด 8K Ultra High Definition หรือ 7680 x 4320 ในที่สุด ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นเองก็เริ่มทดสอบออกอากาศกันบ้างแล้วตามงานอีเวนท์ใหญ่ๆ ทิศทางของความละเอียด 4K ในอนาคต แรกเริ่มเดิมทีตั้งแต่มีทีวี 4K ออกมาใหม่ๆ ประชาชนยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะนอกจากว่ามันจะ แพง จนหูฉี่แล้ว คอนเทนต์ที่จะใช้เปิดยังไม่มีอีกต่างหากแต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป 2 ปี สัญญาณที่ดีก็เริ่มตั้งแต่ปี 2015 เพราะทีวีความละเอียด 4K ถูกลงเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่ง เพียงคุณมีเงิน 25,000 บาท ก็สามารถซื้อหาทีวีความละเอียด 4K มาใช้กันได้แล้ว ต่างกับแต่ก่อนที่จะต้องมีเงินในกระเป๋าอย่างน้อย ก็ต้อง 50,000 บาท ขึ้นไป ส่วนในด้านคอนเทนต์ก็จะเริ่มมีการปล่อยแผ่นบลูเรย์รูปแบบความละเอียด 4K ช่วงกลางปี 2016 และเมื่อทุกอย่างลงตัว ความละเอียด 4K ก็จะกลายเป็นความละเอียดมาตรฐานแทนที่ความละเอียด Full HD ซึ่งคงไม่เกิน 2 ปีนี้ แน่นอน